How to เลือกซื้อบ้านมือสองอย่างไร ให้อยู่ได้ยาว ๆ ไร้ปัญหาจุกจิก 

K

สำหรับที่ใครต้องการจะซื้อบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง แต่ปัจจัยยังไม่พอกับบ้านหลังใหม่ งั้นหาบ้านมือสองอยู่ไปก่อน และการซื้อบ้านต่อจากคนอื่นก็ไม่ได้แย่เสมอไป หากเรารู้วิธีในการเลือกซื้อ และบวกกับเจอเจ้าของบ้านเดิมดูแลบ้านมาอย่างดีแต่มีเหตุจำเป็นต้องตัดใจขาย ไม่แน่นะ การซื้อบ้านมือสอง อาจกลายเป็นบ้านแสนสุขอยู่ต่อไปยาว ๆ จนตกทอดถึงลูกหลานก็ได้  

ปัจจัยที่ทำให้มีคนประกาศขายบ้านกันมากขึ้น 

 

  • ปัญหาเศรษฐกิจ 
  • ย้ายถิ่นอาศัย ย้ายที่ทำงาน 
  • ต้องการขยายครอบครัว 
  • เบื่อหน่ายสภาพแวดล้อม 
  • ไม่พึงพอกับที่อยู่เดิม 
  • มีรายได้มากขึ้น 
  • ผ่อนต่อไม่ไหว 

และอีกมากมายหลายเหตุผลที่แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม บ้านมือสองยังเป็นที่ต้องการของตลาด เพราะมีรคาถูกกว่าหากเทียบกับสร้างบ้านหลังใหม่ทั้งหลัง บางคนก็ซื้อบ้านมือสองแล้วรีโนเวทเพื่อจะเก็งกำไรในการปล่อยเช่าหรือขายต่อ หรือบางคนซื้อบ้านมือสองแล้วรีโนเวทเพื่ออาศัยอยู่เอง แต่ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้านมือสองที่ยังผ่อนไม่หมด หรือซื้อบ้านมือสองไม่มีเงินดาวน์ก็ตาม เราจะต้องคำนึงการเลือกทำเล และต้องได้เห็นสภาพบ้านและตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนก่อนเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้ซื้อบ้านแล้วพังแทนที่จะปัง สิ่งที่ต้องดูและตรวจสอบเมื่อจะทำการตัดสินใจซื้อบ้านมือสองมีอะไรบ้าง 

น้ำท่วมถึงหรือไม่ 

หลายคนต้องเจ็บปวดน้ำตาตกในมาแล้วนักต่อนัก กับการซื้อบ้านได้ไม่นาน น้ำท่วมเข้าบ้านมูลค่าความเสียหายจมไปกับน้ำ ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน ต้องตรวจสอบซ้ำแล้วซ้ำอีก หากซื้อตอนที่ไม่ใช่ช่วงฤดูฝน ต้องสอบถามเพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียง หรือถ้าซื้อบ้านในช่วงฤดูน้ำหลาก หน้าฝนพอดี ก็รอดูให้แน่ชัดว่าน้ำท่วมถึงหรือไม่ แล้วจึงค่อยตัดสินใจซื้อ 

ตรวจสอบบริเวณรอบบ้าน ดินอ่อน ดินยวบตัว มีแนวโน้มดินทรุดหรือไม่ 

อีกปัญหาบ้านที่มักพบได้บ่อย คือ บ้านทรุด หรือบริเวณรอบบ้านทรุดลงเรื่อย ๆ ดังนั้นเพื่อตัดปัญหาอยู่ไป ๆ แล้ว บ้านทรุด เสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต จะต้องเดินดูรอยดินรอบ ๆ ตัวบ้านให้ทั่ว โดยสังเกตจากรอยคราบดิน หรือรอยสีดินที่มีความแตกต่างจนสังเกตเห็นได้ถึงการทรุดตัวลงของพื้นดิน รวมไปถึงระดับของพื้นดินที่สูง-ต่ำ ไม่เรียบเป็นระดับชั้นเดียวกัน โดยการทรุดของดินไม่ควรจะเกิน 20 เซนติเมตร และถ้ายิ่งมีการทรุดของดินจนสามารถมองเห็นแนวท่อน้ำดี หรือท่อน้ำเสียก็ตาม ยิ่งเป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อการที่ดินอาจทรุดจนทับท่อน้ำแตกได้ 

ผนังรั่วซึมหรือไม่ 

อีกปัญหาเมื่อซื้อบ้านมือสอง คือ ผนังรั่วซึม เนื่องจากตัวบ้านผ่านการใช้งานในการอยู่อาศัยมาแล้วช่วงระยะหนึ่ง อีกทั้งผนังบ้านมักจะมีจุดอ่อนแอต่อการรั่วซึมได้ง่าย รวมถึงเฟรมหน้าต่าง และตามขอบบานพับหน้าต่าง ซึ่งบ้านในปัจจุบันมักจะทำหน้าต่างด้วยการใช้เฟรมอลูมิเนียมมอบขาวเป็นบานสไลด์ หากรูระบายน้ำรางตัน ย่อมเสี่ยงที่จะทำให้น้ำค่อย ๆ ซึมผ่านตามรูยึดเฟรมเข้าไปบนอิฐกำแพงที่ก่อไว้ได้ ทำให้เกิดความชื้นตามมา วิธีสังเกตผนังรั่วซึมหรือไม่ ดูจากรอยคราบน้ำ ที่มักจะฝังเป็นคราบจนสามารถสังเกตเห็นได้ไม่ยาก แต่ถ้าบ้านหลังไหนมีการติด wall paper ไว้ทำให้มองไม่เห็น ต้องลอกวอลเปเปอร์ออกถึงจะเห็นคราบน้ำได้ว่ามีหรือไม่ 

ระบบน้ำ 

เพราะเรื่องน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด ต้องตรวจสอบให้ละเอียด ทั้งระบบน้ำดี และระบบน้ำเสีย โดยเฉพาะบ้านที่ไม่มีคนอยู่อาศัยมานาน มักจะมีปัญหาของระบบน้ำดี เนื่องจากไม่มีการใช้งาน ทำให้ระบบการทำงานของท่อน้ำดีรวน ท่อเปราะ หรือท่อน้ำแตกจากแรงดันเมื่อถูกติดตั้งการใช้งานหลังจากไม่ได้ใช้งานมานาน วิธีสังเกตระบบน้ำ เริ่มจากระบบ floor drain หรือระบบน้ำเสีย ให้ดูจากรอยน้ำซึมตามฝ้าชั้นล่าง ระเบีบง หรือฝ้านอกบ้าน ส่วนการสังเกตระบบน้ำดี ให้สังเกตจากการหมุนของมิเตอร์ หากปิดน้ำแล้ว มิเตอร์ยังหมุนอยู่ แสดงว่ามีน้ำรั่วแน่นอน 

หลังคาบ้าน

ซื้อบ้านทั้งทีแล้ว หลังคาบ้านรั่ว อันนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ เพราะนั่นหมายถึง มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและสูงมากเสียด้วย  และยังเสียเวลาระหว่างรอช่างซ่อมหลังคา แล้วตอนนั้นต้องระเห็จไปอยู่ที่ใดกันเล่า ดังนั้น ไม่ควรพลาดที่จะตรวจสอบหลังคาให้ดี ซึ่งไม่จำเป็นต้องปีนป่ายขึ้นหลังคาให้ยากเย็น เพียงแค่ต้องสังเกตรอยชื้นของฝ้าชั้นบนของบ้าน และจุดรวมน้ำฝนของหลังคาบ้าน หากบ้านมุงหลังคาแบบจั่ว เมื่อฝนตก น้ำฝนจะมารวมตัวกันแล้วไหลลงหน้าบ้าน หากน้ำที่ไหลเทลงมาไม่พ้นขอบบัว มักจะเกิดคราบน้ำหรือรอยตะไคร่ 

กระเบื้องร่อน 

กรณีที่เป็นบ้านมีคนอาศัยอยู่จะไม่ค่อยมีปัญหานี้ส่งต่อมายังผู้รับซื้อบ้านต่อ เพราะการที่มีคนอยู่อาศัยในบ้าน จะมีอากาศหมุนเวียน ไม่อับลมจนทำให้พื้นกระเบื้องร่อนได้ ซึ่งจะต่างจากบ้านที่ไม่มีคนอยู่ จะปิดบ้านตลอดเวลาจนทำให้บ้านอบและอับ และเมื่อฝนตกหรือเข้าสู่หน้าฝน ความชื้นจากด้านล่างจะไปดันตัวจนส่งผลต่อปูนกาวชื้นและหดตัว และหลุดร่อนออกมาในที่สุด การสังเกตง่าย ๆ เพียงแค่ถอดรองเท้าเดินบนพื้นบ้าน ความแตกต่างการรับน้ำหนักเท้าของเราระหว่างเดิน จะทำให้เรารู้สึกได้ 

หากตรวจสอบละเอียดดีแล้ว และแทบไม่เจอปัญหาเหล่านี้ นับว่าเป็นผู้โชคดีและไม่มีเหตุผลใดที่จะปล่อยบ้านดี ๆ ให้หลุดมือไป เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ครอบครองบ้านมือสองโดยไร้ปัญหากวนใจแล้วค่ะ