ออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็นดีกว่ากัน 

K

ปัจจุบันคนเริ่มหันมาให้ความสนใจในสุขภาพกันมากขึ้น ใส่ใจในเรื่องของอาหารสุขภาพ และการออกกำลังกาย บางคนอาจรักการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ หากวันไหนไม่ได้ขยับร่างกาย อาจไม่สดชื่นหรือนอนไม่หลับ ส่วนบางคนออกกำลังกายเพราะอายุที่เริ่มมากขึ้น อยากมีสุขภาพดี กินอิ่มนอนหลับ แทนการนอนป่วยที่โรงพยาบาล แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ย่อมเป็นเป้าหมายที่ดี เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา คือ การออกกำลังกาย แต่ก็มีคำถามให้ได้ถกกันก่อนจะลงมือทำเสียแล้ว ออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็นดีกว่ากัน ถ้าอย่างนั้นเราไปหาคำตอบพร้อมกันเลยค่ะ

Healthy Asian girlfriend jogging together in park

การออกกำลังกายตอนเช้า 

การได้ออกกำลังกายตอนเช้า จะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อให้ตื่นตัว มีการหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ทำให้รูสึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า อารมณ์ดี เป็นการปลุกร่างกายให้เตรียมพร้อมในการทำงานและกิจกรรมต่าง ๆ ในระหว่างวัน อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ มีการดึงไขมันสะสมมาใช้ระหว่างวันได้เยอะขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือผู้ที่ต้องการลดไขมันส่วนเกิน โดยการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอในช่วงเข้า ตั้งแต่ 07.00 – .8.30 น. จะช่วยลดน้ำหนักและไขมันส่วนเกินได้ดีมาก 

การออกกำลังตอนเช้าข้อเสียที่ควรระวัง คือ อาการหน้ามืด วิงเวียน คล้ายจะเป็นลม รวมไปถึงภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน อาจรุนแรงจนเสียชีวิตได้ เนื่องจากหลังตื่นนอนในตอนเช้า ร่างกายของเรายังไม่มีพลังงานให้กล้ามเนื้อเพียงพอต่อการเคลื่อนไหวที่หักโหมเกินไป ดังนั้น หากใครที่สะดวกในการออกกำลังกายช่วงเช้าเท่านั้น ควรทานอาหารก่อนออกกำลังกาย 1- 2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมสารอาหารและพลังงานเพื่อส่งไปหล่อเลี้ยงยังอวัยวะต่าง ๆ 

full shot woman sitting bench

การออกกำลังกายตอนเย็น 

มีผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำให้ออกกำลังกายตอนเย็นดีที่สุด เพราะร่างกายได้รับพลังงานจากการทานอาหารมาตลอดทั้งวัน ร่างกายมีอุณหภูมิสูงกว่าช่วงเช้า ทำให้การเผาผลาญดี ไม่รู้สึกเหนื่อยง่าย อีกทั้งการนั่งทำงานหลังแข็งมาแล้วทั้งวันของชาวออฟฟิศทั้งหลาย การได้ออกกำลังกายตอนเย็นจะช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อให้รู้สีกผ่อนคลาย ลดความเครียดที่สะสมมาทั้งวัน ทำให้อารมณ์ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการนอนดีขึ้นด้วย แล้วออกกำลังกายตอนเย็นเวลาไหนดีที่สุด สามารถออกกำลังในช่วงเย็นได้ตามสะอวด ตั้งแต่ 15.00 – 21.00 น. และยังเหมาะในการเข้าฟิตเนสเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดี

อย่างไรก็ตาม ไม่ควรปล่อยให้ท้องว่างหลังจากออกกำลังกาย เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานประมาณ 2,000 กิโลแคลอรีในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ได้สูญเสียพลังงานประมาณ 500 กิโลแคลอรีจากการออกกำลังกาย ร่างกายจึงส่งสัญญาณเตือนว่าจะต้องเติมพลังงานกลับคืน หากเพิกเฉย ปล่อยให้ท้องร้องหรือมีอาการหิวบ่อย ๆ โดยไม่ยอมเติมสารอาหารเข้าไปหลังออกกำลังกาย จะส่งผลให้รู้สึกเพลีย เหนื่อย อ่อนล้า เนื่องจากร่างกายอาจปิดสวิตซ์ตัวเองเข้าสู่โหมดจำศีล เพื่อประหยัดพลังงานที่เหลืออยู่

Asian active Female runner workout standing bent over and catchi

ควรออกกำลังกายนานเท่าไรถึงจะดี 

การออกกำลังกายให้ได้ผลดีต่อสุขภาพ ควรใช้เวลาประมาณ 15 – 30 นาที โดยไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ แต่อาจแบ่งเป็นรอบ ๆ รอบละประมาณ 10 – 15 นาที เช่น หากเดินขึ้น – ลง บันได ก็ให้ได้รอบละ 10 นาที แต่สำหรับใครที่ต้องการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมัน หรือควบคุมน้ำหนัก ควรใช้เวลาในการออกกำลัง 30 นาทีขึ้นไปต่อรอบ ช่วยควบคุมอัตราการเต้นหัวใจในระดับพอดี ไม่สูงหรือต่ำเกินไป หากเป็นผู้มีสุขภาพปกติ ควรใช้ระยะเวลาให้เหมาะสมกับประเภทความหนักของการออกกำลังกาย เช่น การเดินเร็ว การวิ่งจ๊อกกิ้ง การปั่นจักรยาน ฯลฯ ซึ่งความหนัก – เบาของกิจกรรมที่ต่างกัน ระยะเวลาที่ใช้ก็แตกต่างด้วยเช่นกัน ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรทำการปรึกษาแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำประเภทการออกกำลังกายและระยะเวลาที่เหมาะสม 

ที่จริงแล้ว หากจะถามว่าออกกำลังกายช่วงไหนดีที่สุด หรือเวลาไหนเหมาะต่อการออกกำลังกายมากที่สุด ด้วยกิจวัตรประจำวันและกิจกรรมต่าง ๆ ในยุคนี้ ก็ต้องขอบอกว่า ช่วงไหนก็ได้ที่สะดวกและร่างกายพร้อม ซึ่งหมายถึงร่างกายไม่เหนื่อยล้าหรืออ่อนเพลีย และควรห่างจากการรับประทานอาหารประมาณ  1 – 2 ชั่วโมง เพื่อรอให้ร่างกายและเอนไซม์ต่าง ๆ ได้ปรับและกลับเข้าสู่โหมดปกติเสียก่อน อีกทั้งไม่ควรปล่อยให้ท้องว่างก่อนออกกำลังกาย หากสะดวกในการออกกำลังช่วงเช้า อาจหาอาหารเบา ๆ เช่น แคร็กเกอร์รสจืด หรือขนมปังไม่ขัดสี สัก 1 – 2 แผ่น กินรองท้องก่อน เพื่อป้องกันร่างกายขาดพลังงานและน้ำตาล จนเป็นสาเหตุให้เกิดอาการหน้ามืด เป็นลม รู้สึกไม่สดชื่น หรือมีอาการอ่อนเพลีย