ต้องยอมรับว่าปัจจุบัน ผู้ขับขี่ยานยนต์เริ่มหันมาให้ความสนใจ และปรับเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV (Electric Vehicle) กันมากขึ้น เนื่องจากเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% โดยใช้แบตเตอรี่ลูกใหญ่แทนที่เครื่องยนต์ภายในตัวรถ แต่ระบบการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ย่อมต้องมีการชาร์จไฟเมื่อรถแบตหมด เช่นเดียวกับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่ต้องมีการชาร์จแบตเตอรี่ เพื่อให้สามารถใช้งานต่อไปได้นั่นเอง
รถยนต์ไฟฟ้า นอกจากจะช่วยลดภาระค่าน้ำมันแพง ดีไซน์สวย ประกอบกับรูปแบบของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย การใช้รถยนต์ EV ช่วยลดการปล่อยก๊าซมลพิษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของก๊าซเรือนกระจก สาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อน เรียกว่าประโยชน์ของรถไฟฟ้าช่วยตอบโจทย์ในด้านค่าใช้จ่าย และยังเป็น Zero Emission เพราะระหว่างการใช้งานรถไฟฟ้า ไม่เกิดกระบวนการเผาไหม้ใด ๆ ขึ้นนั่นเอง แต่ในขณะที่กระแสความนิยมการใช้งานรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น กลับมีสถานีชาร์จไฟรถยนต์ EV ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน เนื่องจากสถานีชาร์จรถไฟฟ้ายังมีไม่ทั่วถึง ทำให้การใช้บริการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไม่สะดวกเท่าที่ควร จุดบริการอยู่ไกลบ้าน เดินทางไกล แถมยังเสียเวลารอต่อคิวนาน ทำให้ผู้ประกอบการหลายแห่งมีการผลิตที่ชาร์จรถไฟฟ้าออกมาจำหน่าย เพื่อตอบรับความต้องการใช้งานของผู้บริโภคที่มีมากขึ้น สำหรับใครที่พักอาศัยในบ้านของตัวเอง การมีเครื่องชาร์จแบตรถไฟฟ้าที่บ้านถือว่าเพิ่มความสะดวกต่อการใช้งานได้มากขึ้น สามารถติดต่อสอบถามร้านจำหน่ายหรือรับติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน เพื่อปรับเปลี่ยนระบบไฟฟ้านิดหน่อย เพียงเท่านี้ก็สามารถชาร์จแบตรถยนต์ได้ตลอดเวลาที่ต้องการ การติดตั้งระบบชาร์จไฟรถ EV ที่บ้านต้องทำยังไงบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่า
1. เปลี่ยนขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ควรเป็นขนาด 30 (100) เพื่อป้องกันการใช้กำลังไฟมากเกินไป
2. เปลี่ยนสายเมนและ MCB หรือ ลูกเซอร์กิตให้ใหญ่ขึ้น โดยควรใช้สายเมนขนาด 25 ตารางมิลลิเมตร และ MCB ขนาด 100 (A) เพื่อให้สมดุลต่อการใช้งาน
3. ติดตั้ง Circuit Breaker สำหรับใช้ชาร์จไฟรถยนต์ ในตู้ MDB (ตู้ควบคุมไฟฟ้า) แยกต่างหากจากอุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ควรใช้รวมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้าน เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าเกิน หรือลัดวงจร จนอาจเกิดอันตรายขึ้นได้
4. ติดตั้ง RCD หรือ เครื่องตัดไฟรั่ว เพื่อให้ตัดไฟอัตโนมัติทันที เมื่อมีกระแสไฟไหลเข้าออกผิดปกติ ที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร จนทำให้เกิดไฟไหม้ได้
5. ใช้ EV Socket หรือ เต้ารับ ชนิด 3 รู ที่มีสายต่อหลักดิน สามารถทนกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า16 (A)
เมื่อมีการติดตั้งระบบเครื่องชาร์จไฟรถยนต์ EV ที่บ้าน ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้มากขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง เพื่อไปชาร์จแบตเตอรี่ที่สถานีไกลบ้าน และยังสามารถชาร์จรถไฟฟ้าได้ตลอดเวลา เพื่อเตรียมความพร้อมในการใช้งาน ทั้งสะดวกสบาย (ชาร์จรถ EV ได้บ่อยแค่ไหน คลิกที่นี่)